ข่าวบอล แมนซิตี้ เปิดรังถล่ม ลิเวอร์พูล พร้อม 5 ประเด็ดในเกมที่เกิดขึ้น

ข่าวบอล แมนซิตี้ เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม แซงกลับมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายน หลังโดนทีมเยือนทำประตูออกนำไปก่อน

ข่าวบอล แมนซิตี้ ผู้จัดการทีม เป็ป กวาร์ดิโอล่า คว้าชัยในถิ่นตัวเองเอาชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งทำแต้มที่ได้มาตอนนี้ไล่กดดันจ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ตามติดๆ

เกร็ดน่ารู้ 5 ประเด็นในศึกครั้งนี้ แมนซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล

1. ซาลาห์ สร้างสถิติ

โมฮาเหม็ด ปีกทีมชาติอียิปต์ เป็นคนทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 17 และเป็นลูกที่ 12 ที่เจ้าตัวยิงใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ขณะที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้า แมนฯ ซิตี้ นำเป็นดาวซัลโวอยู่ที่ 28 ประตู

ซาลาห์ ได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมา หลังกลายเป็นนักเตะ “หงส์แดง” คนแรกที่สามารถยิงใส่ “เรือใบสีฟ้า” ได้ 4 เกมในฤดูกาลเดียว หลังซัดใส่ทีมของ เป๊ป มาแล้วทั้ง คอมมิวนิตี้ ชิลด์, พรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ

นอกจากนั้น แข้งอียิปต์ ยังเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ยิงใส่คู่แข่งทีมเดียว 4 นัดในฤดูกาลเดียวนับตั้งแต่ เอียน รัช ทำได้ในการเจอ เอฟเวอร์ตัน 5 นัด เมื่อซีซั่น 1986/87

ขณะเดียวกัน ซาลาห์ ยังก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวในการเล่นนอกบ้านให้กับต้นสังกัดนับตั้งแต่ยุค พรีเมียร์ลีก โดยทำไป 56 ประตู แซง ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ก่อนหน้านี้ทำได้เท่ากันที่ 55 ประตู

2. เรือไม่มี ฮาลันด์ แต่ยังมี อัลวาเรซ

เกมนี้ เป็ป ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าคนเก่งจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเจ็บโคนขาหนีบจากเกมถล่ม เบิร์นลี่ย์ 6-0 จนต้องถอนตัวจากทีมชาตินอร์เวย์ ชุดลงคัดยูโร 2024 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ฮาลันด์ ไม่สามารถลงเล่นเกมนี้ได้ทำให้ เป็ป ต้องส่ง ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนตินา ลงตัวจริง หลังที่ผ่านมาได้ออกสตาร์ตในลีกแค่ 6 นัดเท่านั้น

อัลวาเรซ ตอบแทนความไว้วางใจจากเจ้านาย หลังเป็นคนยิงตีเสมอ 1-1 นาที 27 ก่อนที่ครึ่งหลังจะมีส่วนนำไปสู่การได้ประตูอีกสองลูก หลังเป็นคนผ่านบอลยาวให้ ริยาด มาห์เรซ ที่เปิดมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงนำ 2-1 และลูก 3-1 ก็เป็นคนยิงติดบล็อกของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกาน ซัดจ่อๆ เข้าไป

3. เกมนอกบ้านหงส์ยังมีปัญหา

ลิเวอร์พูล มีปัญหากับการเล่นเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยก่อนลงเตะกับ แมนฯ ซิตี้ เพิ่งเก็บได้เพียง 12 คะแนนจาก 13 นัด และแพ้ไปถึง 7 เกม ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักเตะสำคัญผลัดกันเจ็บไปหลายราย

นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล ยังยิงประตูไม่ได้ 3 นัดเยือนล่าสุดในทุกรายการ (เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0, แพ้ บอร์นมัธ 0-1, แพ้ เรอัล มาดริด 0-1) แต่ยังดีที่นัดนี้มาทำได้ 1 ลูกจาก ซาลาห์

ถิ่น เอติฮัด ยังคงเป็นของแสลงของ ลิเวอร์พูล หลังความพ่ายแพ้เกมนี้ทำให้มีสถิติบุกไปชนะได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นจากเกมเยือน แมนฯ ซิตี้ 7 นัดหลังสุด โดยหนสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปถึงปี 2018

ขณะเดียวกัน 6 เกม พรีเมียร์ลีก หลังสุดที่ลงเล่นในสนามของ แมนฯ ซิตี้ ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งเก็บได้แค่ 2 แต้มเท่านั้น ต่างกับที่มักจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเล่นในแอนฟิลด์

4. คล็อปป์ แก้ปัญหาแนวรับยุ่ยไม่ตก

ลิเวอร์พูล เสียไปถึง 4 ประตูในเกมนี้ ส่งผลให้ซีซั่นนี้โดนยิงไปแล้วถึง 33 ลูกจาก 27 เกม หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยเสีย 1.22 ประตูต่อเกม ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ คล็อปป์ ยังแก้ปัญหาไม่ได้

แผงแบ็กโฟร์ในเกมนี้ คล็อปป์ ใช้งาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซึ่งถือเป็นชุดที่ดีที่สุดแล้ว แต่ทุกคนยังเล่นผิดพลาดกันไปหมด

“หงส์แดง” เริ่มครึ่งหลังได้แค่ 53 วินาทีก็โดนเจ้าถิ่นยิงแซงนำ 2-1 จาก เควิน เดอ บรอยน์ ส่งผลให้กลายเป็นการเสียประตูในครึ่งหลังเร็วสุดของทีม นับตั้งแต่โดน ซิลแว็ง ดิสแต็ง ของ เอฟเวอร์ตัน ยิงใส่หลังเขี่ยลูกครึ่งหลัง 40 วินาที เมื่อเดือนมกราคม ปี 2011

ขณะที่แผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการเสียประตูเช่นกัน หลังหยุดการต่อเกมที่ลื่นไหลของ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เลย

5. เรือต่อโอกาสลุ้นแชมป์-หงส์ส่อหลุดท็อปโฟร์

“เรือใบสีฟ้า” สร้างแรงกดดันใส่ อาร์เซน่อล หลังลงเล่น 28 นัดเท่ากัน และไล่จี้มาเหลือ 5 คะแนนแล้ว ก่อนที่ “ปืนใหญ่” จะเปิดบ้านลงเตะกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด คืนวันเดียวกันนี้ (21.00 น.)

ส่วน “หงส์แดง” โอกาสติดท็อปโฟร์เริ่มริบหรี่ หลังเวลานี้ยังรั้งอันดับ 6 เล่นไป 27 เกม ยังมีอยู่ 42 คะแนนเท่าเดิม ตาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อันดับ 4 ที่เล่นมากกว่าหนึ่งนัด 7 คะแนน และตาม นิวคาสเซิ่ล ที่เล่นน้อยกว่าหนึ่งนัด 5 คะแนน

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ซิตี้ จะบุกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน วันเสาร์ที่ 8 เม.ย. ส่วน ลิเวอร์พูล จะออกไปเยือน เชลซี วันอังคารที่ 4 เม.ย.นี้

ศูนย์รวม ทรรศนะฟุตบอล วิเคราะห์บอล พร้อมทั้ง ทีเด็ดบอล ทีเด็ดเซียน จากกูรูคุณภาพ

อัพเดท ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก ไทยลีก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ให้แบบสดๆร้อนๆ

ข่าวตลาดซื้อขายนักเตะ ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ไฮไลท์บอลย้อนหลัง คัดเน้นๆด้วยข้อมูลที่แน่น

ติดตาม ข่าวสารฟุตบอล ไปกับเรา ศูนย์รวม ทรรศนะฟุตบอล